Route1: I–san Chill out Home stay
อุดรธานี-หนองคาย

Day1  เดินทางจากกรุงเทพฯด้วยเครื่องบิน ไปอุดรธานี ขับรถยนต์มุ่งสู่ บ้านสีกาย หนองคาย 
จากตัวเมืองหนองคายราว  20 นาที เราก็มาถึงหมู่บ้านโฮมสเตย์ที่ได้รับรางวัลชุมชนดีเด่น
ด้านการท่องเที่ยว  
          บ้านสีกายกลุ่มโฮมสเตย์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้าน
ตามแบบฉบับการเที่ยวแบบโฮมสเตย์ หากมาฤดูเก็บเกี่ยวก็จะได้ลองแปลงกายเป็นชาวสวน บุก
เก็บมะเขือเทศ 
          หากสนใจเป็นชาวประมง ชาวบ้านสีกายก็จะไม่รอช้าพาเราลงเรือเพื่อเรียนรู้วิธีการจับปลาใน
แม่น้ำโขง  และไปเที่ยวหาดสีกาย  หาดทรายตามธรรมชาติ ในฤดูร้อน จะมีชาวไทยและลาวไป
เล่นน้ำเป็นจำนวนมาก มีร้านค้าขายรอาหารและเครื่องดื่ม และ banana boat บริการให้เช่าห่วงยาง
และเรือนำเที่ยวชมทัศนียภาพสองฝั่งโขง
         สนุกมาทั้งวัน แวะไปนวดแผนไทยที่ถูกใจคุณภาพระดับสปา แต่ราคาแค่ 99 บาทเท่านั้นเอง
และรับประทานอาหารเย็น กินกันแบบชาวบ้านที่ครอบครัวบ้านสีกาย ตกมื้อละ 50 บาท อิ่มอร่อย
จนพุงกาง


     


Day2  
ตื่นเช้า ปั่นจักรยาน สูดอากาศบริสุทธิ์รอบเมืองหนองคาย  ไม่แปลกใจที่ที่นี่ติดอันดับเมือง
ที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ความสะอาด  สงบ กะทัดรัด ทิวทัศน์สวยงาม
           ตลอดเส้นทางมองฝั่งโขงมีทั้งความอัศจรรย์ของธรรมชาติ และวิถีวัฒนธรรม ไปไหนมาไหน
ที่หนองคายเจอผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส และคุ้นเคยกับคนต่างถิ่น  พอท้องเริ่มร้องกิ่ว ก็มีอาหาร
เช้าอร่อยที่หากินง่าย สะอาด รอบตัวเมือง ก่อนแพ็คกระเป๋าเพื่อเดินทางไปกราบหลวงพ่อพระใส
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวเมืองหนองคาย  ที่วัดโพธิ์ชัย และเดินทางไปเพื่อชม
ความมหัศจรรย์ของพระธาตุหนองคายที่ผุดขึ้นกลางลำน้ำโขง เล่ากันว่า พ.ศ. 2390 พระธาตุ
หนองคายได้พังลงแม่น้ำโขงและตลิ่งอันเป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุถูกน้ำเซาะพังลงจนมองเห็น
องค์พระธาตุเกือบอยู่กึ่งกลางลำแม่น้ำโขง
          ซึ่งจากการสำรวจใต้น้ำของหน่วยโบราณคดี พบว่าองค์พระธาตุมีฐานกว้างด้านละ ๑๗.๒
เมตร ย่อมุมที่ฐาน และมีความสูงประมาณ ๒๘.๕ เมตร
          ไปตลาดท่าเสด็จ ช้อปปิ้งเครื่องประดับ ไม้แกะสลัก และไป ร้านแดงแหนมเนือง อาหาร
ญวนพื้นถิ่นขึ้นชื่อ  กินอร่อยได้บรรยากาศ ก่อนขับรถกลับเพื่อพักผ่อนที่โรงแรมในตัวเมือง

Day3   ตะลอนซื้อของฝากจากเมืองหนองคาย ไม่พลาดกับไส้กรอก หมูยออร่อย บนถนนมีชัย  
ก่อนบอก ลาหนองคาย เดินทางทางกลับอุดรธานี แวะบ้านนาข่า เพื่อซื้อผ้าติดไม้ติดมือไป
ฝากเพื่อนฝูง และ กรุงเทพฯโดยเครื่องบิน

ไปจั่งไสดี้(การเดินทาง)
        จากสนามบิน จ. อุดรธานี ถึงตัวเมืองหนองคาย ระยะทาง 51 กิโลเมตร อ.เมือง จ.หนองคาย –
บ้านสีกายเหนือ 18 กิโลเมตรม่วนซื่นคั่กๆ เลอะเที่ยวมอๆ (ท่องเที่ยวใกล้เคียง)
        ลัดเลาะโฮมสเตย์ริมฝั่งโขง     คนกรุงโหยหาชีวิตที่เรียบง่าย โฮมสเตย์เมืองหนองคาย โอบ
ล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามริมฝั่งโขง และเทศกาลงานประเพณีที่มหัศจรรย์อย่างงานบั้งไฟ
ใต้ฟ้าหนองคายจึงเป็นแดนแห่งโฮมสเตย์ที่น่าเยือน 
       หากชอบความสวยงามของหาดทราย และชื่นชมทานตะวันดอกโต ให้พักที่ บ้านจอมแจ้ง
โฮมสเตย์  หรือหน้าเทศกาลบั้งไฟ ในเดือนวันออกพรรษา จองตั๋วหน้าบ้านดูความหัศจรรย์ของ
บั้งไฟริมฝั่งแม่น้ำโขงที่โฮมสเตย์ในหลายอำเภอ ทั้ง อ.โพนพิสัยที่โฮมสเตย์ บ้านหนองกุ้งเหนือ
โฮมสเตย์บ้านน้ำเป- อ.รัตนวาปี และโฮมสเตย์บ้านอาฮง ที่ อ.บึงกาฬ
      สะพานมิตรภาพไทย-ลาว   ตั้งอยู่ซอย 1-2 บ้านจอมมณี ตำบลมีชัย เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขง
ไปยังท่านาแล้ง แขวงเวียงจันทน์ของประเทศลาว เป็นสะพานแห่งแรกที่สร้างขึ้นด้วยความร่วมมือ
ของ 3 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย ลาว และประเทศไทย เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง
      พระธาตุบังพวน
     เป็นเจดีย์เก่าแก่ เป็นที่เคารพสักการะของชาวหนองคายมาช้านาน ตัวองค์พระ
ธาตุเดิมเป็นที่ตั้งฉัตรและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ นอกจากนี้ภายในบริเวณ ยังมี

      พิพิธภัณฑ์พระธาตุบังพวน    ภายในจะเก็บซากเศษหิน ใบเสมา ศิลาจารึก ตลอดจนโบราณวัตถุ
ของพระธาตุองค์เก่า รวมทั้งประวัติขององค์พระธาตุ

    
 สระพญานาค     อยู่ในบริเวณใกล้ๆ องค์พระธาตุ ซึ่งในสมัยโบราณเมื่อมีการแต่งตั้งผู้ใดเป็นเจ้า
เมือง ก็จะนำน้ำจากสระนี้ไปสรงเพื่อเป็นสิริมงคล ในสมัยต่อมาสระพญานาคก็ทรุดโทรมลงตาม
กาลเวลา จนกระทั่งชาวบ้านและประชาชนที่มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันบริจาคและทำการบูรณะสระพญา
นาคเพื่อใช้น้ำในสระนี้นำไปประกอบพิธีมงคลต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล ทุกปีชาวจังหวัดหนอง
คายจะจัดงานนมัสการพระธาตุบังพวนขึ้นในเดือนยี่ ขึ้น 11 ค่ำ
      ท่าเสด็จ      เป็นท่าเรือโดยสารข้ามแม่น้ำโขงไปยังฝั่งลาว มีด่านตรวจคนเข้าเมืองและร้านค้า
จำหน่ายสินค้าจากนานาประเทศที่ส่งผ่านเข้ามาจากฝั่งลาว สินค้าที่จำหน่ายได้แก่ เครื่องไม้ฝังมุก
เครื่องไฟฟ้า นาฬิกา อาหาร

      หาดจอมมณี     หาดยาว 200 เมตร ได้รับการเรียกขานว่าเป็น "พัทยาอีสาน” สามารถมองเห็น
บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ได้อย่างชัดเจน


แซ่บอีหลีน่าบ๊าน (อร่อยประจำถิ่น)
         ถนนริมโขง มีร้านอาหารพื้นเมืองอร่อยอยู่เรียงราย เช่น ร้านแดงแหนมเนือง โทร.042-411-961 และ
ร้านระเบียงแม่โขง มีเมนูปลาหลากหลายให้เลือกชิม โทร.042-460 698


ฮู้ก่อนเดินทาง(รู้ก่อนเดินทาง)
         การท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ที่คุ้มค่าที่สุดคือ การลองใช้ชีวิตและทำทุกอย่างเหมือนวิถีปกติในแต่ละวัน
ของคนพื้นที่
         ไปเที่ยวหนองคายควรเผื่อเวลาสำหรับการขึ้นไป ณ จุดชมวิวของสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อย่าลืม
เตรียมเอกสารสำหรับการผ่านด่านคนเข้าเมือง

Route2: I-San Family Route

นครราชสีมา - ชัยภูม

Day1  เดินทางด้วยรถยนต์ มุ่งหน้าสู่ ฟาร์มโชคชัย อ.ปากช่อง ได้้ยินว่าที่
นี่เป็นดินแดนคาวบอยของไทย มาถึงก็ไม่ผิดหวัง เพราะนอกจากได้สูดอากาศ
สดชื่นใกล้ๆ กรุงเทพฯแล้ว ยังมีกิจกรรมสนุกๆ อีกเพียบ เหมาะกับครอบครัว
ที่ ฟาร์มโชคชัย ก.ม. 159-160 ถ.มิตรภาพ  
       เด็กๆ ได้ลองขี่ม้า รีดนมวัว ทำตัวเป็นคาวบอยน้อย เรียนรู้เกษตรอย่างย่อ
ที่เรียกว่าการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เด็กๆ จะได้ซึมซับความเป็นธรรมชาติ และ
เก็บความรู้ไปพร้อมกับความสนุก
       จากนั้นไป Cooking Workshop ทำบาร์บีคิวร่วมกับพ่อครัวชั้นนำ
และพาเด็กๆ ไปดูขั้นตอนการทำ Ice Cream ลองปรุงแต่งรสชาติไอศกรีม
ด้วยตัวเองในโรงผลิตนม Umm!...Milk ปิดท้าย ด้วยการชมการแสดงของ
สัตว์แสนรู้ สร้างรอยยิ้มได้ทั้งครอบครัว
       จากนั้นไป เขาใหญ่ อุทยานแห่งแรกของประเทศไทย เป็นป่าที่อุดมสม
บูรณ์ เส้นทางเดินป่าบนเขาใหญ่มี 13 เส้นทาง มีจุดชมวิวที่กระจายอยู่ทั่ว
ถ้าโชคดีอาจได้เห็นช้างป่าที่ออกมาเดินริมถนน ไปเที่ยว น้ำตกเหวสุวัต น้ำ
ตกเหวไทร น้ำตกเหวประทุน น้ำตกกองแก้ว น้ำตกเหวนรก ตอนเย็นลง
จากเขาใหญ่ มาพักที่รีสอร์ท บนถนนธนะรัชต์

Day2  ตื่นเช้า รับประทานอาหารที่โรงแรม แล้วขับรถไป พิพิธภัณฑ์ไม้
กลายเป็นหิน พิพิธภัณฑ์แห่งแรกของเอเชียจัดแสดงการอนุรักษ์ซากดึก
ดำบรรพ์
        ชื่อของไม้กลายเป็นหิน เกิดจากการการขุดพบเศษไม้ ท่อนไม้ที่กลาย
เป็นหินในที่ราบสูงโคราช ตั้งแต่ระดับผิวดินถึงระดับความลึก 8 เมตร
มีขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าเม็ดกรวด จนถึงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่
มากกว่า 50 ซ.ม แถมบางชิ้นมีความยาวมากกว่า 1 เมตร มีสีสันหลากหลาย
อายุประมาณ 1 ถึง 70 ล้านปี
       และยังมี ฟอสซิลสัตว์โบราณอย่างช้างดึกดำบรรพ์ โครงกระดูกและหุ่น
จำลองของช้างดึกดำบรรพ์ของโคราช เช่น ช้าง 4 งา   ช้างงาจอบช้างงา
เสียม กระดูกและฟันไดโนเสาร์นับพันชิ้นที่มีอายุถึง 100 ล้านปีก่อนเป็น
แหล่งความรู้เกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ ที่เด็กๆ น่าจะชอบ
       หลังอาหารเที่ยงกันแล้ว ไปชมความงามอันน่าทึ่งของ ปราสาทหิน
พิมาย สถาปัตยกรรมในคติความเชื่อของขอมโบราณที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
ไทย รูปแบบศิลปกรรมขอมแบบบาปวนและนครวัด ตั้งอยู่กลางเมืองพิมาย

ซึ่งเคยเป็นเมืองสำคัญ มีเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงกับเมืองสำคัญทางตอนเหนือของลาวและทางตอนใต้ของขอม 
แวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ที่อยู่ใกล้กัน
       ปัจจุบันเป็นที่จัดเก็บโบราณวัตถุสำคัญจากปราสาท รับประทานอาหารอร่อยๆ ในเมือง และพักค้างคืนที่
โรงแรม

Day3   ไป อุทยานแห่งชาติตาดโตน ปิคนิคริมน้ำตกตาดโตน สัมผัสความเย็นสดชื่นของน้ำตกซึ่งมีน้ำไหลตลอด
ทั้งปี และสวยงามที่สุดในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน
         ตอนบ่ายออกจากน้ำตก พาเด็กไปชม มอหินขาว ทุ่งหินประหลาดสีขาวขนาดยักษ์บนเนินเขา ลักษณะคล้าย
สโตนเฮ็นจ์ (Stonehenge)ในอังกฤษกลุ่มหินทรายนี้เกิดจากการสะสมของตะกอนทรายแป้งและดินเหนียว
จากทางน้ำ
        ต่อมาสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงทำให้มีรูปร่างและลักษณะแตกต่างกันที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคาที่นี่เคย
เป็นฉากการเดินทัพของหนังเรื่อง ตำนานพระนเรศวรมหาราชด้วย    ก่อนกลับแวะรับประทานปลาเผา ที่เขื่อน
ลำปะทาว ใน อ. แก้งคร้อ และเดินทางกลับกรุงเทพฯด้วยความสุขใจ

ไปจั่งไสดี้(การเดินทาง)
         ฟาร์มโชคชัย ก.ม. 159-160 ถ.มิตรภาพ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เขาใหญ่ ขับรถยนต์ ผ่านถนน
พหลโยธินผ่านรังสิตถึงสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพผ่านมวกเหล็กและเลี้ยวขวาอีกครั้งหนึ่งตรงทางแยก
ก่อนถึงอำเภอปากช่องตรงกิโลเมตรที่ 58 เข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2090 (ถนนธนะรัชต์) ประมาณ
25 กิโลเมตร ถึงด่านตรวจ จากนั้นเส้นทางจะไต่ขึ้นเขาไปอีก 12 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
ระยะทางรวมทั้งสิ้น 200 กิโลเมตร
        พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน การเดินทางใช้ทางหลวงหมายเลข 304 (นครราชสีมา-ปักธงชัย ) ระยะทาง 19 กิโลเมตร แยกขวาเข้าไปทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (ประตูที่ 2) อีก 3 กิโลเมตร  แยกซ้ายเข้าถนนเลี่ยง
เมืองสายมิตรภาพ-หนองปลิงจะถึงวัดโกรกเดือนห้า
        ปราสาทหินพิมาย จากจังหวัดนครราชสีมาไปยังอำเภอพิมายทางถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข 2)
ประมาณ 12 กิโลเมตร เมื่อเข้าสู่อำเภอพิมายแล้วจะมีถนนไปสู่ตัวปราสาทอีกประมาณ 4 กิโลเมตร

แซ่บอีหลีน่าบ๊าน (อร่อยประจำถิ่น)
        โชคชัย สเต็กเฮาส์  ฟาร์มโชคชัย ลิ้มรสเนื้ออร่อยๆ ไอศกรีมรสนุ่ม และของฝากที่วางขายอยู่ใกล้ๆ
        
เฟรินส์เนื้อย่างเกาหลี  ถนนบรรณาการ จ.ชัยภูมิ โทร. 0-4481-2441
        
สวนอาหารเงาไม้  กม.ที่ 5 ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว โทร. 0-4482-1708  
        สวนอาหารริมทุ่ง  กม.ที่ 17 ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว และ สวนอาหารดอนละนาม กม.ที่ 10 ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว
โทร. 0 4482 2338 ต่อ 131


ฮู้ก่อนเดินทาง(รู้ก่อนเดินทาง)
         การเตรียมตัวเข้าชมฟาร์มโชคชัย แต่งกายด้วยเสื้อผ้าใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี สวมรองเท้ารัดกุม เช่น
รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าที่พื้นเปียกน้ำได้ (ต้องเดินผ่านน้ำยาฆ่าเชื้อ) ป้องกันผิวจากแสงแดดด้วยครีมกันแดด พร้อมร่มหรือ หมวก  
         เปิดให้เข้าชมเฉพาะ วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดต่อเนื่อง วันละ 3 รอบ คือเวลา
10.00 น. / 14.00 น. / 15.00 น. แต่ละรอบรับผู้เข้าชมได้รอบละ 80 ท่านเท่านั้น ซื้อบัตรล่วงหน้าที่หน้าฟาร์ม
โทร. 0-4432-8485 ต่อ 116 หรือ 0-4432-8386 หรือ ที่สำนักงานใหญ่ ถนนสุขุมวิท โทร. 0-2532-2846-8
ต่อ 135 หรือ 0-2523-9103



Route3 :
I-san Music Route

อุดรธานี- นครพนม

Day1   นั่งรถไฟออกจากกรุงเทพฯ ตอน 20.00 น. ถึงอุดรธานีแต่เช้า รับรถขับอำเภอ
นาหว้า ระยะทาง252 กิโลเมตร กราบนมัสการ
พระธาตุประสิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล และ
มุ่งตรงไป “หมู่บ้านแห่งเสียงดนตรี”
       กลุ่มสมาชิกชาวบ้านเกือบ 500 คน เป็น
ช่างทำเครื่องดนตรีพื้นบ้าน ทั้ง พิณ แคน โหวด
(ครบเครื่องวงโปงลาง) ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่ง
ผลิตเครื่องดนตรีอีสานมากที่สุดในภาค โดย
เฉพาะแคน มีการส่งออกไปขายทั่วประเทศ ทั้ง
เครื่องดนตรี และของที่ระลึก

       ทดลองเป่าแคนปะทะฝีปากกับหมอแคน ชมโปงลางของชุมชน ออกจากบ้านนาหว้า ไปชมแม่น้ำสองสี
อ.ท่าอุเทน แม่น้ำสงครามสีเขียวไหลลงมาบรรจบกับแม่น้ำโขงสีปูนที่นี่สวยแปลกตา นมัสการพระธาตุท่าอุเทน
ก่อนกลับเข้าเมืองนครพนม นั่งพักชมวิวหาดทรายทอง ยามเย็นพายคายัคล่องน้ำโขง ช่วงค่ำนั่งดื่มกาแฟ
ชิลล์ชิลล์ที่ร้านบ้านกาแฟ Coffee & Restaurant และพักค้างคืนในเมืองนครพนม

Day2   ตื่นนอนเช้าตรู่ ไปดูชีวิตของชาวนครพนมที่ ตลาดสดเทศบาล เมืองนครพนม ตลาดนี้เริ่มคึกคักตั้ง
แต่ตี 3 อาหารสด ผักพื้นบ้าน และปลาสดๆที่จับได้จากแม่น้ำโขง ทานอาหารเวียดนามตอนเช้า สายหน่อย
ตระเวนสัมผัสกลิ่นอายเวียดนามในนครพนม ชมหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ก่อนเดินทางชมการฟ้อนผู้
ไทยเรณูนคร
         ที่อำเภอเรณูนครการฟ้อนผู้ไทยนี้ถือว่าเป็นศิลปะเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมประจำเผ่าของผู้ไทย
เรณูนคร และจังหวัดนครพนมที่ได้รับการอนุรักษ์ และนำออกเผยแพร่ทั้งในและต่างประเทศ และที่น่า
ประทับใจคือ นักเรียนในเขตอำเภอเรณูนคร จะฟ้อนรำประเพณี "การฟ้อนผู้ไทย" เป็นทุกคน
         เที่ยงแวะทานอาหารเมนูเด็ด ที่ร้านคุณหลุยส์ ถ.เรณู-โนนสังข์ จากนั้นเดินทางไปอ.ธาตุพนม นมัสการ
พระธาตุพนม ซึ่งห่างจากอำเภอเรณูนคร 15 กม. เป็นเจดีย์ที่บรรจุกระดูกทรวงอกขององค์สมเด็จพระสัม
มาสัมพุทธเจ้า 
        พระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคน
ที่เกิดปีวอก หลังจากนั้นะแวะชิมก๋วยเตี๋ยวเปียกบริเวณหน้าวัด และซื้อ กาละแมทูลใจที่ขึ้นชื่อของที่นี่ และนั่ง
ชิลล์ชิลล์ ที่ร้านเก๋ไก๋ ชื่อ that’s good @that phanom ค้างคืนที่นครพนม

Day3   เดินทางออกจากนครพนมช่วงเช้า หากมีเวลาอาจจะช็อปปิ้งที่ ตลาดอินโดจีนริมแม่น้ำโขง ก่อน
ขับรถไปอุดรธานี ขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯ ในช่วงเย็น

ไปจั่งไสดี้(การเดินทาง)
        ทางรถไฟ เดินทางโดยรถดีเซลรางจากกรุงเทพฯ-อุดรธานี จากนั้นโดยสารรถตู้ปรับอากาศบริการ หรือเช่ารถจากอุดรธานี ถึงนครพนม ระยะทาง 252 กิโลเมตร
        ส่วนการเดินทางไปบ้านท่าเรือ อำเภอนาหว้า จากตัวเมืองนครพนม ไปตามทางหลวงหมายเลข 212
ผ่านอำเภอท่าอุเทนถึงบ้านนาขมิ้น จะมีทางหลวงหมายเลข 2032 แยกซ้ายมือเข้าอำเภอศรีสงคราม ระยะ-ทาง
72 กิโลเมตร จากอำเภอศรีสงครามไปอำเภอนาหว้าระยะทาง 26 กิโลเมตร
        การเดินทางไปอำเภอเรณูนคร อยู่ห่างจากพระธาตุพนม 15 กิโลเมตร และห่างจากตัวจังหวัดนครพนม
ไปทางใต้ 51 กิโลเมตร ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 212 ถึงประมาณกิโลเมตรที่ 44 เลี้ยวขวาไปตามทาง
หลวงหมายเลข 2031 อีกประมาณ 7 กิโลเมตร ทางลาดยางตลอด

ม่วนซื่นคั่กๆ เลอะเที่ยวมอๆ (ท่องเที่ยวใกล้เคียง)
      เขื่อนหน้าเมืองนครพนม  เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองนครพนม และเป็นจุดชมทิวทัศน์พระ-
อาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามริมแม่น้ำโขง บริเวณเขื่อนหน้าเมืองนครพนมนี้อยู่ตรงข้ามกับเมืองท่าแขก
แขวงคำม่วน  ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว      
      หาดทรายทองศรีโคตรบูร เป็นหาดทรายน้ำจืดที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในภาคอีสาน ในฤดูแล้ง
(ราวเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม) หาดทรายจะยื่นออกไปกลางลำน้ำโขง หาดทรายนี้จะอยู่ตรงข้ามกับที่ทำ-
การแขวงคำม่วน ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ
และชมความงามของธรรมชาติ            
      บ้านนาจอก (บ้านท่านโฮจิมินห์) เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียด
นาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แห่งราช-อาณาจักรไทย
เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนาม ระหว่างปี พ.ศ. 2467-2474   

แซ่บอีหลีน่ำบ๊าน (อร่อยประจำถิ่น)
         นครพนมถือว่าเป็นจังหวัดที่มีอาหารอร่อยมากมาย ที่พลาดไม่ได้คือ อาหารเวียดนาม ซึ่งมีอยู่หลายร้าน โดยเฉพาะบริเวณตรงข้ามกับโรงหนังศรีเทพ บนถนนศรีเทพที่แยกเข้ามาจากถนนสุนทรวิจิตร และร้าน
อาหารเช้าดั้ง-เดิม คือร้าน “พรเทพ อาหารเช้า” ที่มีเมนูเด็ดคือ ต้มเส้นก๋วยจั๊บญวน ชามนี้อย่าลืมชิมก่อนปรุง
เพราะรสชาติทางร้านปรุงมาดีอยู่แล้ว น้ำต้มเส้นรสกลมกล่อมหวานน้ำต้มกระดูกหมู เส้นจะเหนียว กลม เคี้ยว
ง่าย รวมถึงเมนูไข่กระทะ โจ๊ก ขนมปังยัดไส้ ไข่ดาวหมูแฮม เท่านั้นยังไม่พอ ร้านนี้มีเมนูเวียดนามอีกหลาย
อย่างให้เลือกกินในช่วงเที่ยง ส่วนที่อำเภอธาตุพนม ก็อย่าพลาดกินข้าวเปียก ร้านจะอยู่บริเวณประตูโขงหน้า
วัดพระธาตุพนม  


ฮุ้ก่อนเดินทาง (รู้ก่อนเดินทาง)

         การไปกราบพระธาตุพนม มีข้อควรรู้หลาย
เรื่อง เช่น ภายในกำแพงชั้นแก้วชั้นในชิดกับพระ
ธาตุนั้น เป็นเขตของพระภิกษุสามเณรเข้าไหว้ ห้าม
ไม่ให้เข้าไปพลุกพล่าน โดยเฉพาะผู้หญิงห้ามเข้า
ไป ส่วนบริเวณกำแพงชั้นแก้ว 1-2 ชาวพุทธในถิ่น
นี้ตั้งแต่พระเถระลงมา เคารพในคุณพระรัตนตรัย
ไม่เคยมีใครใส่รองเท้า กั้นร่ม สวมหมวกเข้าไปเลย
การให้เกียรติแก่ปูชนียสถานถือเป็นสิริมงคล และ
ช่วยรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของไทย


        หากจะทำบัตรอนุญาตผ่านแดน ไปเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ให้ติดต่อที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม ตั้งอยู่บนถนนสุนทรวิจิตร อ.เมือง เปิดทำการทุกวัน ไม่เว้น วันหยุด
ราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โดยทางฏิบัติในการเดินทางเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวร อ.เมือง
จ.นครพนม ต้องยื่นคำขอด้วยตัวเองพร้อมเอกสารหลักฐาน บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนา จำนวน
1 แผ่น รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว หน้าตรงไม่สวมหมวกหรือแว่นตา จำนวน 2 รูป ค่าธรรมเนียมเข้าประเทศ คน
ละ 50 บาท กรณีเป็นนักท่องเที่ยวจะต้องชำระค่าบริการท่องเที่ยวให้แก่การท่องเที่ยวแขวงคำม่วน คนละ
87 บาท ค่าโดยสารเรือไป-กลับ คนละ 80 บาท (วันจันทร์-ศุกร์) และคนละ 100 บาท (วันเสาร์-อาทิตย์
)