Day2   ตื่นเช้าท้าทายความเย็นและหมอกขาว ชมพระอาทิตย์ขึ้น ณ ยอดภูเรือ ลงจากยอดภู มาทานอาหารเช้า
ที่ตัวอำเภอ  ขับรถตรงไปบนเส้นทางเลย-ภูเรือ เพื่อไป ภูหลวง ขับรถเล่นดูเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จากโคกนก
กระทา ลานสุริยัน ผาสมเด็จ ถึง รอยเท้าไดโนเสาร์
      มาถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง พื้นที่ราบสูงที่มีอากาศเย็นตลอดปี มี 3 ฤดู เหมือนพื้นราบ แต่อุณหภูมิ
ิต่างกัน ฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20-24 องศาเซลเซียส ชมดอกไม้สวยงามบนภู เช่น เอื้องตาเหิน กล้วย
ไม้ป่าดอกขาว กุหลาบขาวและกุหลาบแดง ในฤดูฝน มีดอกไม้ป่าดอกเล็กๆ น่ารักสีชมพูอมม่วงขึ้นแซมตาม
ทุ่งหญ้าและดอกเอื้องเทียนน้อยให้ชม ฤดูหนาวอุณหภูมิลดลงมาก เฉลี่ย 0-16 องศา-เซลเซียส ในช่วงเดือน
พ.ย-ม.ค บางวันอุณหภูมิลดลงถึง -4 องศาเซลเซียส ก่วมแดงหรือเมเปิ้ลจะเปลี่ยนสีเป็นแดงจัด ก่อนทิ้งใบร่วง
หล่นลงพื้น
     บริเวณผาโหล่นแต้  มีกุหลาบขาวและกล้วยไม้ป่าต่างๆ และพักเหนื่อยชมวิวทิวทัศน์ของภูหอ ภูกระดึง
ภูยองภู และภูขวาง กลางคืนนอนนับดาวที่บ้านพักนักท่องเที่ยวบนภูหลวง

Day3   บอกลาภูหลวงแต่เช้าตรู่ ขับรถลงมาทานอาหารเช้าที่อำเภอภูเรือ  ใช้เส้นทางเดิมกลับสู่กรุงเทพฯ

ไปจั่งไสดี้ (การเดินทาง)
       จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านตัวเมืองสระบุรี ตรงเข้าทางหลวงหมาย
เลข 21 ผ่านจังหวัดเพชรบูรณ์ ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 203 ผ่านอำเภอหล่มสัก หล่มเก่า เข้าเขตจัง
หวัดเลยที่อำเภอด่าน-ซ้าย อำเภอภูเรือ
      หากเดินทางจากตัวเมืองเลยไปภูเรือ ใช้ทางหลวงหมายเลข 203 (เลย-ภูเรือ) ระยะทางประมาณ
50 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 49-50 ตรงที่ว่าการอำเภอภูเรือ เข้าไปเป็นทางลาด
ยางประมาณ 8 กิโลเมตร รถยนต์สามารถขึ้นได้ และมีทางเดินเท้าอีก 700 เมตร ก็จะถึงยอดภูเรือ     
     จากภูเรือไปภูหลวง ตามเส้นทางเข้าจังหวัดเลย ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร จะถึงบ้านสามตม
แล้วแยกขวาที่บ้านสามตมไปอีกราวๆ 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง สอบถาม
รายละเอียด ที่พัก อาหาร รถขึ้นภูหลวงได้ที่ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง   
ม่วนซื่นคั่กๆ เลอะเที่ยวมอๆ (ท่องเที่ยวใกล้เคียง)
     คำนวณเนิร์สเซอรี่ ตั้งอยู่บนถนนสายภูเรือ-หล่มสัก บ้านสันติสุข ตำบลหนองบัว เป็นสวนดอกไม้ที่
ผลิตดอกไม้เมืองหนาวรายแรกของอำเภอภูเรือ ดอกไม้ที่ปลูกครั้งแรกคือ คริสต์มาสหลากสี พิทูเนีย ซัลเวีย สนมังกร ดาวกระจาย เวอร์บีน่า และเยอบีร่า 
     สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ ชมไม้ผลและไม้เมืองหนาว 
     น้ำตกตาดเหือง (น้ำตกไทย-ลาว)อยู่ห่างจากอำเภอประมาณ 25 กิโลเมตร บริเวณบ้านบ่อเหมืองน้อย เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่และสูงมาก เกิดจากลำน้ำเหือง บริเวณรอบๆ เป็นป่าทึบที่มีความอุดมสมบูรณ์ 
     สวนส้มสยามภูเรือ อยู่ที่บ้านแก่งแล่น เป็นสวนส้มโชกุนขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่ปลูกนับร้อยไร่ ห่างจากที่
ว่าการอำเภอภูเรือประมาณ 15 กิโลเมตร
     สวนเห็ด บ้านภูเรือ ตั้งอยู่ที่บ้านสานตม ตำบลสานตม เป็นที่เพาะเห็ดหอมและจำหน่ายเห็ดหอมที่มี
ชื่อแห่งหนึ่งของอำเภอภูเรือ ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาไปเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร
     สวนองุ่นภูเรือวโนทยาน หรือ ชาโต้ เดอ เลย เป็นสวนองุ่นที่มีพื้นที่นับพันไร่ มีทั้งองุ่นที่รับประทานสด
และองุ่นสำหรับผลิตไวน์ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถชมภายในสวนได้ บริเวณด้านหน้าเป็นร้านค้าที่จำหน่าย
ผลองุ่นสด ผักปลอดสารพิษ ไวน์ชาโต้ เดอ เลย บรั่นดี วิคตอรี่ และสินค้าที่ระลึกต่างๆ การเดินทางใช้เส้น
ทางเมืองเลย-ภูเรือ-ด่านซ้าย
     น้ำตกแก่งสองคอน อยู่ที่บ้านหัวนายูง ตำบลด่านซ้าย การเดินทางใช้เส้นทางหมายเลข 2013 (ด่านซ้าย-นครไทย) อยู่เลยพระธาตุศรีสองรักไปราว 400 เมตร
     วัดโพธิ์ชัย อยู่ที่ตำบลนาพึง การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 2113 (ด่านซ้าย-นาแห้ว) วัดนี้สันนิษฐาน
ว่าสร้างเมื่อประมาณปลายกรุงศรีอยุธยา
     อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย อยู่ในเขตอำเภอนาแห้ว สภาพป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบแล้งที่มีไม้ผลัดใบผสม
ตามพื้นที่สูงเป็นป่าดิบเขาเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างแผ่นดินไทย-ลาว สัตว์ป่าที่พบเห็น ได้แก่ เลียงผา
หมาใน นกเหยี่ยว เต่าปูลู 
     พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน ตั้งอยู่ในวัดโพนชัย ถนนแก้วอาสา ห่างจากอำเภอด่านซ้ายประมาณ 2 กิโลเมตรวัด
เนรมิตรวิปัสสนา ตั้งสูงเด่นอยู่บนเนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรักเพียงเล็กน้อย พระอุโบสถและเจดีย์ภาย
ในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง

แซบอีหลีน่าบ๊าน (อร่อยประจำถิ่น)
       ตลอดเส้นทางก่อนขึ้นภูเรือ มีร้านอาหารหลายร้าน เช่น ร้านไก้ย่างภูเรือ ร้านภูเรือโภชนา ร้านระเบียงเรือ
ร้านครัวร่มขนุน แนะนำร้าน "ภูเรือไก่ย่าง" อยู่ตรงจุดกลับรถเยื้องทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ จุดเด่นของร้าน
อยู่ที่ไก่ย่างภูเรือ หมักเครื่องเทศรสเข้มข้นสูตรลับเฉพาะของร้าน และน้ำจิ้มไก่รสเด็ด สูตรผสมน้ำมะขามเปียก
และ ส้มตำสารพัดสูตร โดยเฉพาะส้มตำปูปลาร้า แซบจริงๆ

ฮู้ก่อนเดินทาง(รู้ก่อนเดินทาง)
       เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวในเส้นทางเชื่อมโยงแม่น้ำโขงครั้งนี้ใช้ระยะทางที่ไกล จำเป็นจะต้องตรวจสอบ
และเช็คสภาพรถให้พร้อม รวมถึงอากาศในแดนอีสานใต้ค่อนข้างร้อนจัด ดังนั้นจึงต้องเตรียมชุดที่เหมาะสม รวมถึงการไปเที่ยวชม นมัสการวัด และพุทธอุทยานในหลายจังหวัด จึงควรเตรียมชุดแต่งกายที่เหมาะ
สมในการเข้าศาสนสถานสำคัญเหล่านี้ด้วย

ฐานอยู่บนหินลับมีดและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานวัดศรีคุณเมือง วัดเก่าแก่คู่เมืองเชียงคาน
ที่สวยงามด้วยศิลปะที่ผสมผสานระหว่างล้านนาและล้านช้าง ไปชมซุ้มประตูวิหารทรงโค้งที่ วัดโพนชัย
         แวะซื้อผ้านวมทำมือที่ร้านนิยมไทย ฝีมือของคุณยายไปห่มกายให้อุ่นไปถึงหัวใจ อิ่มอร่อยกับเมนู
เป็นกุ้งและปลาสดๆจากแม่น้ำโขง ทอดสายตามองแก่งหินกลางลำน้ำโขงที่ แก่งคุดคู้ แวะนั่งจิบกาแฟร้อน
ที่ร้าน ดอกฝ้าย ก่อนกลับไปพักผ่อนที่เกสต์เฮ้าส์

Day3    เสน่ห์ยามเช้าของเชียงคาน คือ ภาพพระสงฆ์เดินเรียงแถวบนถนนสายเล็กเลียบแม่น้ำโขง ร่วมใส่บาตรยามเช้าและนั่งสนทนากับผู้เฒ่าผู้แก่ บันทึกภาพเมืองเล็กแสนงดงามริมฝั่งโขงให้ประทับ
อยู่ในเบื้องลึกของความทรงจำ ก่อนเดินทางกลับอุดร  ขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ

จากนั้น ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 201 มุ่งตรงจากตัวเมืองเลยมายัง อำเภอเชียงคานได้

ม่วนซื่นคั่กๆ เลอะเที่ยวมอๆ (ท่องเที่ยวใกล้เคียง)
       กลุ่มทอผ้าไทเลย บ้านก้างปลา  บ้านก้างปลา มีการรวมตัวกันทอผ้าไทเลย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของจัง
หวัด มีการสาธิตการทอผ้า และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าผืน เสื้อบุรุษ ชุดสตรี ผ้าขาวม้า กระเป๋า เป็นต้น
      พระใหญ่ภูคกงิ้ว   เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร หล่อด้วยไฟเบอร์ผสมเรซิ่นสีทองทั้งองค์ สูง
19 เมตร ตัวฐานกว้าง 7.2 เมตร 
      ศูนย์ศิลป์สิรินธร   อยู่ภายในโรงเรียนศรีสงครามวิทยา บนเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ศูนย์ฯ นี้เป็นสถาน
ที่แสดงภาพเขียนของนักเรียนที่มีความสวยงาม โดยสร้างชื่อเสียงทั้งในประเทศและระดับโลกมาแล้ว
      พระพุทธบาทถ้ำผาบิ้ง   อยู่บริเวณวัดถ้ำผาบิ้ง บ้านผาบิ้ง ตำบลนาแก ห่างจากอำเภอวังสะพุง 9 กิโล
เมตร กรมศิลปากรจดทะเบียนเป็นโบราณสถานพร้อมกับพระธาตุศรีสองรัก เมื่อ พ.ศ. 2498  ใช้เส้นทาง
หลวงหมายเลข 201 (อำเภอเมือง-วังสะพุง) แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 7 กิโลเมตร จะเห็นวัดอยู่ทางขวามือ
      ศูนย์หัตถกรรมปั้นหม้อบ้านโค้งสวรรค์   ห่างจากตัวเมืองหนองบัวลำภูไปทางจังหวัดอุดรธานีประ
มาณ 17 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข210 เป็นหมู่บ้านที่ผลิตเครื่องปั้นดินเผาด้วยกรรมวิธีการ
ผลิตแบบดั้งเดิม
      สวนกล้วยไม้    เป็นที่เพาะพันธุ์กล้วยไม้กลิ่นหอมพันธุ์ใหม่ของไทยระหว่างแวนด้า (Vanda) และ
โจเซฟฟินแวนเบอร์โร (Josephine Van Berrow) ได้รับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ที่สมาคมกล้วยไม้โลก
ประเทศอังกฤษ เปิดให้เข้าชมเวลา 07.00 – 18.00 น. ค่าเข้าชมคนละ 20 บาท
      สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม        อยู่ในเขตเทศบาลเมืองอุดรธานี หนองประจักษ์เป็นหนองน้ำ
ขนาดใหญ่ มีมาตั้งแต่ก่อนตั้งเมืองอุดรธานี เดิมเรียกว่า“หนองนาเกลือ” ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมือง

แซบอีหลีน่าบ๊าน (อร่อยประจำถิ่น)
      อาหารที่ขึ้นชื่อของชาวเชียงคาน หนีไม่พ้นเมนู “กุ้งฝอย” กุ้งเต้นต้มยำปลาจากลำน้ำโขงเป็นอาหารแนะ
นำในราคาไม่แพง นอกจากนั้นก็มีอาหารปลาแม่น้ำโขงตามร้านอาหาร ที่อยู่ตามเกสต์เฮ้าส์ริมแม่น้ำโขง
      ร้านลุกโภชนา โทร.0- 4282-1281
      ร้านบ้านต้นโขง โทร.0- 4282-1281

ฮู้ก่อนเดินทาง(รู้ก่อนเดินทาง)
      สินค้าชื่อดังของอำเภอเชียงคาน ขึ้นชื่ออยู่ 2 อย่างคือ มะพร้าวแก้ว และผ้านวมแฮนด์เมด ภายใต้แบรนด์
“นิยมไทย” ทราบว่าขั้นตอนยากไม่เบากว่าจะได้ผ้าห่มอุ่นๆ สักผืน แต่ราคาไม่แพง

Route3 : I-san Amazing Catholic Route
อุดรธานี-สกลนคร-นครพนม

Day1    เหินฟ้าจากกรุงเทพถึงสนามบิน จ. อุดรธานี เพื่อเดินทางต่อไปยัง จ. สกลนคร มุ่งสู่บ้านท่าแร่  ชุมชน
ชาวคริสต์นิกายคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นศุนย์กลางแห่งการเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก
ในแถบสกลนครและจังหวัดใกล้เคียง
        ที่นี่มี โครงการเจ้าบ้านน้อยเพื่อให้เด็กๆ ในชุมชนทำหน้าที่เป็นไกด์สมัครเล่น ส่งเสียงเจี้อยแจ้วเพิ่มสีสัน
แห่งความน่าเอ็นดูให้กับผู้มาเยือนเพราะต้องการให้ให้เด็กๆ ในชุมชุนเกิดความรักและใฝ่รู้ในวัฒนธรรมท้องถิ่น
        ในเดือนวันคริสมาสต์ของทุกปี ถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยแสงดาวแห่งศรัทธาของชุมชนในบ้านท่าแร่และ
ชาวคริสต์จากทั่วสารทิศเดินทางมาเพื่อร่วม  งานแห่ดาว ชาวท่าแร่จะตกแต่งดาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการถือ
กำเนิดของพระเยซูเจ้าศาสดาแห่งคริสต์ศาสนา ออกมาร่วมแห่เฉลิมฉลองในวันคริตมาสต์
       เพื่อรำลึกถึงการถือกำเนิดของพระเยซู แสงอันเป็นนิมิตแห่งชีวิตที่ดีงามจะนำทางสู่ วิหารอัครเทวดาคา
มีแอล โดยมีชาวคริสต์จาก 4 จังหวัด คือ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร และกาฬสินธุ์ นำดาวมาร่วมแห่
       ไปชมหนองหานและสักการะพระธาตุเชิงชุม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวสกลนคร หลังจากรับประ
ทานอาหารเย็น ที่ ร้านประชาชื่น ลองสั่งเนื้อกระทะมาชิม จิบบรรยากาศสักพักเดินย่อยซื้อขนมหวานที่ตลาด
โต้รุ่ง กลับเข้าพักผ่อนเพื่อเตรียมลุยการเดินทางในวันรุ่ง

Day2    จากตัวเมืองนครพนม เรามุ่งหน้าไปหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม หมู่บ้านเก่าแก่นี้อดีต เป็นที่ที่
ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายโฮจิมินห์ได้เคยเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารเจ้าพระบาท-
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
       เพื่อกอบกู้เอกราชของประเทศเวียดนาม ระหว่างปี พ.ศ.2467– 2474 ลุงโฮ ใช้ชีวิตอยู่เรียบง่าย ในบ้าน
ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ และพืชผักปลูกไว้กินเองเช่น มะพร้าว หมาก พลู บ้านที่เห็นเป็นบ้านจำลองของท่าน
โฮจิมินห์ ที่ยังคงเก็บรักษาไว้โดยลูกหลานรุ่นปัจจุบัน
       เดินทางต่อไป โบสถ์นักบุญอันนา สร้างขึ้นโดยพ่อเอดัวร์ นำลาภแสง ในปี คศ .1926 ที่ยังคงความสวย
งาม เป็นแหล่งรวมใจของคนหลากเชื้อชาติ ภาษา เดินเล่นเลียบถนนริมเขื่อนแม่น้ำโขง แวะดื่มกาแฟ ที่ร้าน
กาแฟน่ารักที่เรียงรายริมฝั่งโขง

Day3    ชมย่านหอนาฬิกาเก่า ซึมซับบรรยากาศของเมือง เวลาเช้าจะพบเห็นกลุ่มคนสูงวัยขี่จักรยานออกกำลัง
กาย ลัดเลาะริมน้ำโขง ไปชม หาดทรายทองศรีโคตรบูรณ์ ยามเช้าเมื่อน้ำลดจะปรากฏสันทรายสีทองล้อแสง
อาทิตย์ ยามเย็นมีบริการเรือแคนนู ให้พายเล่นสัมผัสทะเลจำลองไร้คลื่น
        แวะไปชมความสวยมีเสน่ห์ของจวนผู้ว่านครพนม อาคารเก่าอนุรักษ์ที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้า-
อยู่หัว ในครั้งที่ประพาสมา ณ เมืองนครพนม
       ปัจจุบันบ้านหลังนี้เปิดให้เป็นพิพิธภัณฑ์หากเดินชมให้ครบถ้วนก็จะรู้เรื่องราวของเมืองนครพนมได้ครบ
ถ้วนทีเดียว หากยังพอมีเวลาเหลือแวะซื้อของฝากจากเมืองนครพนม แล้วเดินทางไปอุดร ขึ้นเครื่องบิน กลับ
กรุงเทพฯ

ไปจั่งไสดี้ (การเดินทาง)
       ระยะทางจากสนามบินอุดรธานี – อ.เมือง จ. สกลนคร เข้าสู่ตำบลท่าแร่ ประมาณ 21 กิโลเมตร
       ระยะทางจากสกลนคร  -ถึง จ. นครพนม 90 กิโลเมตร

ม่วนซื่นคั่กๆ เลอะเที่ยวมอๆ (ท่องเที่ยวใกล้เคียง)
สกลนคร
     พระธาตุภูเพ็ก    ตั้งอยู่ที่ตำบลนาหัวบ่อ บนเส้นทางหลวงสายสกลนคร-อุดรธานี ห่างจากตัวเมืองสกลนคร
ไปประมาณ ๒๒ กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไปอีก ๑๔ กิโลเมตร ผู้ที่จะไปนมัสการพระธาตุต้องเดินขึ้นบันได
ประมาณ ๔๙๑ ขั้น
     พระธาตุเชิงชุม    ตั้งอยู่ในวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ปลายถนนเจริญเมือง ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร สร้างครอบรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าสี่พระองค์ ซึ่งหมายถึง พระกกุสันธะ พระโกนาคม พระกัสสะปะ
และพระโคตมะหรือพระศรีอารียเมตตรัย ภายในวิหารใกล้พระธาตุเชิงชุม เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อองค์แสน
อันศักดิ์สิทธิ์

      ศูนย์ศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม  แหล่งรวมเครื่องปั้น
ดินเผาผ้าไหม คุณภาพดี ราคาไม่แพง มีสาธิตวิธีการผลิต และสามารถทดลองทำของที่ระลึกด้วยตนเองได้ บ้านกุด
นาขามอยู่ใน ตำบลเจริญศิลป์ อำเภอเจริญศิลป์ เดินทาง
ไปตามเส้นทางสายสกลนคร-อุดรธานี ทางหลวงหมายเลข
22 ถึงอำเภอสว่างแดนดิน แยกขวาเข้าเส้นทางหมายเลข
2091 และแยกซ้ายเข้าเส้นทางหมายเลข 2280 เข้าอำเภอ
เจริญศิลป์ และไปต่อประมาณ 23 กิโลเมตร เปิดวันอังคาร
–เสาร์ โทร 0-4270-9162
      วัดป่าอุดมสมพร  วัดเก่าที่ปฏิสังขรณ์ใหม่โดยอาจารย์
ฝั้น อาจาโร เพื่อให้เป็นมรดกทางศาสนาปัจจุบันเป็นที่ตั้ง
ของพิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อยู่ใน อ. พรรณานิคม ไปตาม
ทางหลวงหมายเลข 22 เลี้ยวขวาเข้าประมาณ 2 กิโลเมตร)
      พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ อยู่บนทางหลวง
สกลนคร – กาฬสินธุ์ เป็นที่ตั้งของตำหนักบนเทือกเขา
ภูพาน พระตำหนักที่งดงามรายล้อมทัศนียภาพที่สวยงาม

แซ่บอีหลีน่าบ๊าน( อร่อยประจำถิ่น)

      ร้านเสต็กเนื้อโพนยางคำ อยู่ในบางจากภูพานรีสอร์ท ด้านหน้าเป็นปั๊มบางจาก เบอร์โทรศัทพ์
0 4274 7400
      เค้กมะพร้าวร้านกาแฟฟ้าโปร่ง บรรยากาศดี กาแฟอร่อย แนะนำเค้กมะพร้าว  ใกล้ ร.พ. สกลนคร เบอร์โทรศัพท์ 0 4271 5729
      ร้านอาหารประชาชื่น ผับกึ่งเรสเตอร์รองค์ อยู่บนถนนมรรคาลัย-เปรมปรีดา เบอร์โทรศัพท์
0 4271-1818